ข้อมูลสุขภาพ

โรคน้ำในหูชั้นในไม่เท่ากัน หรือ Meniere’s Disease


" โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน "

พบมาในช่วงวัยทำงานจนถึงวัยสูงอายุ คือ ช่วงอายุ 30-60 ปี โดยพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

แต่จะพบได้ในผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่

เกิดจากน้ำในระบบการทรงตัวในหูชั้นในทำงานผิดปกติ สาเหตุมีหลายปัจจัย เช่น จากพันธุกรรมและการกินเค็ม



อาการที่เกิดจาก “น้ำในหูไม่เท่ากัน”

โรคน้ำในหูไม่เท่ากันส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทรงตัว และการได้ยิน จึงทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้

  • 1. เวียนศีรษะอย่างรุนแรง รู้สึกบ้านหมุน โดยมีอาการอยู่นาน อาจจะเป็นชั่วโมง ซึ่งอาการจะมาๆ หาย
  • 2. บางครั้งจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับการสูญเสียสมดุลของร่างกาย จึงทำให้เซล้มได้ง่าย
  • 3. หูอื้อได้ยินไม่ชัดรู้สึกแน่นในหูเป็นๆ หายๆ การได้ยินบางครั้งดีขึ้น บางครั้งก็แย่ลง มีเสียงดังในหู อาจเป็นเสียงวี้ดๆ มีอาการหนักๆ หน่วงๆ ในหู คล้ายมีแรงดันในหู


วิธีรักษา  

แพทย์เฉพาะทางจะเป็นผู้ตรวจและรักษาผู้ป่วยตามอาการของโรคที่ประเมินได้ในแต่ละรายเช่น

  • 1. ปรับพฤติกรรม  หากผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง แพทย์จะแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย และพยายามคลายความวิตกกังวล
  • 2. การใช้ยารักษาตามอาการตามแพทย์สั่ง


การปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

  • 1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด
  • 2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างชา กาแฟ
  • 3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทุกหมู่
  • 4. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
  • 5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีเสียงรบกวนในหูขณะนอนหลับ ให้เปิดเพลงคลอเบาๆ เพื่อกลบเสียงนั้น
  • 6. พยายามหากิจกรรมเพื่อคลายความเครียด ลดความวิตกกังวล
  • 7. หากผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะกะทันหัน ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือการปีนป่ายที่สูง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือเสี่ยงอันตรายได้



แนะนำโดย
แพทย์หญิงวรางรัตน์ รุ่งรัชกานนท์
โสตศอนาสิกแพทย์
โรงพยาบาลอุบลรักษ์ ธนบุรี



ดูตารางออกตรวจแพทย์ คลิก



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
แผนกหู คอ จมูก โทร. 045-429100 ต่อ 2241 , 2242