
ข้อมูลสุขภาพ
การเตรียมตัวก่อนมาบริจาคโลหิต
ทางสภากาชาดได้มีการกำหนดคุณสมบัติ พร้อมวิธีการเตรียมตัวก่อนการบริจาคโลหิตไว้ ถ้าคุณสมบัติไม่ครบและเตรียมตัวมาไม่พร้อมก็ไม่สามารถบริจาคได้
ผู้บริจาคโลหิตควรมีคุณสมบัติดังนี้
- อายุ ระหว่าง 17 - 70 ปี
- น้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป
ผู้ที่มีประวัติดังกล่าวควรงดบริจาคโลหิต
- มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ เช่นมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ไม่ใช่คู่นอนของตน
- เคยเป็นผู้ที่เสพยาเสพติด โดยใช้เข็มฉีดยา
- เคยมีน้าหนักลด มีไข้ มีต่อมน้าเหลืองโต โดยไม่ทราบสาเหตุ ในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา หรือเคยตรวจพบว่าติดเชื้อเอชไอวี
การเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต
- นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ อย่างน้อย 5 ชั่วโมง
- รู้สึกสบายดี สุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะบริจาคโลหิต
- ไม่อยู่ระหว่างรับประทานยารักษาโรคบางอย่าง กรณีรับประทานยาต่างๆ แจ้งเจ้าหน้าที่
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ภายใน 6 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำประมาณ 300-500 cc ก่อนบริจาคโลหิต 30 นาที
- งดสูบบุหรี่ ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมง
- งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนและหลังบริจาค 24 ชั่วโมง หากดิ่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ งด 7 วัน ก่อนการบริจาคโลหิต
- ไม่ควรบริจาคเลือด เมื่ออยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- คลอดบุตร หรือแท้งบุตร ควรเว้น 6 เดือน
- หากอุดฟัน ขูดหินปูน เว้น 3 วัน/ ถอนฟัน รักษารากฟัน ให้งดบริจาค 7 วัน
- หากท้องเสีย ท้องร่วง ให้งดบริจาค 7 วัน
- หาก เจาะหู ผิวหนัง สัก ลบรอยสัก เมื่อทำด้วยเทคนิคปลอดเชื้อที่โรงพยาบาล สามารถบริจาคโลหิตได้ หากทำหัตถการ ณ. สถานที่อื่นๆ ให้งดบริจาค 4 เดือน (สำหรับตรวจ HCV ด้วยเทคนิค NAT) หากไม่ได้ตรวจ HCV ด้วยเทคนิค NAT ให้เว้น 1ปี
- หาก ผ่าตัดเล็ก เว้น 7 วัน / ผ่าตัดใหญ่ ให้งดบริจาค 6 เดือน
- หากเสริมความงามจากคลีนิกที่ไม่ใช่โรงพยาบาล เช่น ฉีดวิตามิน ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดเมโสหน้าใส ฉีดกลูต้าไธโอน ปรับรูปหน้าเรียว วีเชฟ กดสิว ร้อยไหม ให้งดบริจาค 4 เดือน
- การรักษาโรคด้วยเลเซอร์ เช่น สิว กระ จุดด่างดำ ขี้แมลงวัน ริ้วรอย รอยตีนกา รอยย่น แผลเป็น เนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง ติ่งเนื้อ หูด ปานดำ ไฝ รอยสักสีดำ การกำจัดขน เป็นต้น สามารถบริจาคได้ หากไม่มีอาการอักเสบ หากอักเสบ รอให้แผลหายดีก่อน จึงจะบริจาคโลหิตได้
การดูแลตัวเองหลังบริจาคโลหิต
- ควรนอนพักไม่น้อยกว่า 5 นาที หากไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จึงลุกไปนั่งพัก 10-15 นาที พร้อมดื่มเครื่องดื่มและรับประทานอาหารว่าง ณ. ที่จัดไว้บริการ
- หลังจาคบริจาคโลหิต ควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- รับประทานยาเสริมธาตุเหล็ก วันละ 1 เม็ด หรือตามจำนวนที่ได้รับจนหมด
- งดกิจกรรมหรือทำงานที่มีความเสี่ยง ที่เกี่ยวกับความเร็ว ความสูง ความลึก (ดำน้ำ) เครื่องจักรกล หรือที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้โดยสารเป็นต้น เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้เวลานาน เช่น การเดินซื้อของมรบริเวณแออัด และมีอากาศร้อนอบอ้าว เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการใช้กำลังแขน ข้างที่บริจาคโลหิต เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการขึ้น - ลงบันได ที่สูงชันมากๆ เพราะอาจทำให้รู้สึกวิงเวียน และเป็นลมได้
- งดออกกำลังกายที่ทำให้เสียเหงือเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ข้อมูลจาก ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 7 จ.อุบลราชธานี สภากาชาดไทย